กระดูกพรุนภัยเงียบสาเหตุปัญหาปวดหลัง และข้อต่อ

กระดูกพรุนเป็นภาวะที่กระดูกสูญเสียความหนาแน่นและ ความแข็งแรง  ทำให้มีความเสี่ยงต่อการเปราะหักง่าย โดยเฉพาะกระดูกสันหลังและข้อต่อต่าง ๆ ถึงแม้จะไม่มีอาการใด ๆ ในช่วงแรก แต่ภาวะนี้จะค่อย ๆ ทำลายกระดูกอย่างช้า ๆ  จนอาจนำไปสู่ภาวะอาการปวดตามร่างกาย  และข้อต่อต่าง ๆ รวมถึงทำให้กระดูกเปราะหักได้ง่ายขึ้น

การป้องกันโรคนี้ตั้งแต่เนิ่น ๆ จึงเป็นสิ่งสำคัญ โดยการทานอาหารที่มีแคลเซียม และมีวิตามินดีอย่างเพียงพอ ออกกำลังกายสม่ำเสมอ และหลีกเลี่ยงพฤติกรรมเสี่ยง ที่จะทำให้เกิดโรคกระดูกพรุน

โรคกระดูกพรุนคืออะไร

โรคกระดูกพรุน (Osteoporosis) คือ ภาวะที่กระดูกสูญเสียมวลกระดูก (Bone Mass) และมีการเสื่อมสภาพของโครงสร้างกระดูกลง ส่งผลให้กระดูกมีความพรุนและหนาแน่นน้อยลง จนเสี่ยงต่อการหักได้ง่ายขึ้น ซึ่งโรคนี้มักพบในผู้หญิงวัยหมดประจำเดือนเพราะมีระดับฮอร์โมนเอสโตรเจนลดลง

อีกทั้งยังพบได้ในเพศชายสูงอายุ ซึ่งมีฮอร์โมนเทสโทสเตอโรนลดลง ซึ่งฮอร์โมนนี้มีบทบาทสำคัญในการควบคุมการสร้างและการสลายกระดูก นอกจากนี้ยังมีปัจจัยเสี่ยงอื่น ๆ ที่ทำให้เกิดโรคกระดูกพรุนได้ เช่น พันธุกรรม ภาวะขาดแคลเซียม และขาดวิตามินดี เป็นต้น 

โรคกระดูกพรุนถือเป็นโรคเรื้อรังที่ไม่สามารถรักษาให้หายขาดได้ แต่สามารถชะลอความรุนแรง และป้องกันภาวะแทรกซ้อนได้ ด้วยการปรับเปลี่ยนพฤติกรรมการใช้ชีวิต โดยโรคนี้สามารถเริ่มตรวจคัดกรองได้ในผู้ที่มีอายุ 50 ปีขึ้นไป โดยการตรวจวัดความหนาแน่นของกระดูกด้วยเครื่อง DEXA Scan เพื่อประเมินความเสี่ยง และจะได้รักษาได้อย่างทันท่วงที

อาการกระดูกพรุนที่พบได้บ่อย

กระดูกพรุนมีอาการที่พบได้บ่อย ดังนี้

  1. ปวดหลัง ปวดกระดูกสันหลัง และตามส่วนอื่น ๆ ของร่างกาย เนื่องจากโครงสร้างของกระดูกสันหลังเสื่อมลง อาจทำให้เกิดการยุบตัว หรือเสียรูปร่างของกระดูกสันหลัง ส่งผลให้รู้สึกปวดหลังได้บ่อย ๆ 
  2. ระดับความสูงลดลง จากการยุบตัวของกระดูกสันหลัง ทำให้ส่วนสูงลดลง ผู้ป่วยอาจสังเกตเห็นได้ว่าตนเองเตี้ยลงจากเดิมนั่นเอง
  3. มีท่าเดิน หลังค่อมคด เมื่อกระดูกสันหลังเสื่อมลงจนมีการคดงอของกระดูก ซึ่งมักส่งผลให้ผู้ป่วยมีท่าทางเดินที่ผิดปกติ และมีลักษณะหลังค่อมคดได้
  4. ปวดกระดูก และข้อต่อ เมื่อกระดูกเสื่อมสภาพ ต้องรองรับน้ำหนักมาก ๆ จากการยืนนาน หรือเดินนาน  เป็นต้น ก็จะยิ่งทำให้มีอาการปวดกระดูกและปวดข้อต่อได้มากขึ้น
  5. กระดูกหักง่าย  กระดูกที่พรุนจะหักได้ง่ายกว่ากระดูกที่แข็งแรง หากถูกกระแทกเบา ๆ ก็อาจทำให้กระดูกหักได้ง่าย

อาการต่าง ๆ เหล่านี้อาจไม่รุนแรงในระยะแรก แต่ถ้าปล่อยไว้ โรคก็อาจจะทวีความรุนแรงมากขึ้นเรื่อย ๆ ดังนั้นจึงควรพบแพทย์เพื่อตรวจคัดกรองและรักษาตั้งแต่เนิ่น ๆ จะช่วยป้องกันภาวะแทรกซ้อนที่รุนแรงได้

อาการกระดูกพรุนที่พบได้บ่อย

เมื่อป่วยเป็นโรคกระดูกพรุนต้องดูแลตัวเองอย่างไร

เมื่อได้รับการวินิจฉัยว่าเป็นกระดูกพรุน การดูแลตัวเองอย่างถูกวิธีถือเป็นสิ่งสำคัญในการชะลอความรุนแรงของโรคและป้องกันภาวะแทรกซ้อน โดยมีแนวทางปฏิบัติดังนี้

ออกกำลังกายเพื่อเพิ่มมวลกระดูก

การออกกำลังกายเป็นปัจจัยสำคัญที่ช่วยเสริมสร้างมวลกระดูกและรักษาความแข็งแรงของกระดูก สามารถปฏิบัติได้โดย การเดิน การวิ่งเหยาะ ๆ การว่ายน้ำ และการออกกำลังกายแบบฝึกแรงต้าน เช่น ยกน้ำหนักเบา หรือใช้ยางดึงต้าน เป็นต้น โดยควรออกกำลังกายอย่างน้อย 150 นาทีต่อสัปดาห์ หรือ 30 นาที 5 วันต่อสัปดาห์ 

ซึ่งการออกกำลังกาย ไม่เพียงแต่จะเพิ่มมวลกระดูกได้ดีเท่านั้น แต่ยังดีต่อสุขภาพโดยรวม โดยเฉพาะคนที่มีภาวะน้ำหนักเกิน เพราะการออกกำลังกายจะช่วยลดน้ำหนักได้ดี และลดปัญหาแทรกซ้อนจากโรคกระดูกพรุนได้ 

เลือกรับประทานอาหารที่ช่วยบำรุงกระดูก

แคลเซียมและวิตามินดีเป็นสารอาหารสำคัญสำหรับการสร้างและรักษามวลกระดูก ซึ่งมีแหล่งอาหารที่อุดมด้วยแคลเซียม ได้แก่ นม โยเกิร์ต เนยแข็ง ปลาเล็กปลาน้อย ถั่ว และธัญพืชเมล็ดแห้ง 

ส่วนวิตามินดีจะพบได้ในไข่แดง ปลาทะเล น้ำมันตับปลา และรังสียูวีบีจากแสงแดด นอกจากนี้ก็ควรทานผัก และผลไม้ที่มีสารต้านอนุมูลอิสระสูง อย่างผักใบเขียว และผลไม้สีเข้ม ซึ่งจะช่วยเสริมการซ่อมแซมเซลล์และบำรุงกระดูกได้ดีอีกด้วย

ออกไปรับแสงแดดยามเช้า

แสงแดดในตอนเช้าประมาณ 7-10 โมง จะมีรังสียูวีบีในระดับที่เหมาะสม ซึ่งจะถูกดูดซึมโดยผิวหนังและถูกเปลี่ยนเป็นวิตามินดีในร่างกาย ซึ่งวิตามินดีมีบทบาทในการควบคุมให้ร่างกายดูดซึมแคลเซียมและฟอสฟอรัสได้ดี จึงช่วยให้กระดูกแข็งแรง ผู้สูงอายุจึงควรออกไปรับแสงแดดยามเช้าอย่างน้อยวันละ 10-15 นาที จะดีที่สุด

ระมัดระวังไม่ให้หกล้ม

การหกล้มเป็นสาเหตุสำคัญของการบาดเจ็บ และอาจทำให้กระดูกหักได้ในผู้ป่วยกระดูกพรุน ดังนั้นจึงต้องป้องกันการหกล้มด้วยการจัดสภาพแวดล้อมในบ้านให้ปลอดภัย เช่น  ติดราวจับในห้องนอน ห้องน้ำ และบันได รวมถึงควรใช้รองเท้าที่มีพื้นกันลื่น เป็นต้น 

ระมัดระวังไม่ให้หกล้ม

โรคกระดูกพรุนนั้น ถือเป็นภาวะเรื้อรังที่ไม่สามารถรักษาให้หายขาดได้ อย่างไรก็ตามการดูแลสุขภาพ และปรับเปลี่ยนพฤติกรรมการใช้ชีวิตอย่างเหมาะสม จึงมีความสำคัญอย่างยิ่งในการชะลอความรุนแรงของโรค พร้อมช่วยป้องกันภาวะแทรกซ้อนร้ายแรง และรักษาคุณภาพชีวิตที่ดีให้กับผู้สูงอายุ

ซึ่งนอกจากการดูแลตนเองตามวิธีดังข้างต้นแล้ว การทานอาหารเสริมอย่างกาแฟขมิ้น Monday Coffee หรือขมิ้นฟู่ ก็ช่วยบำรุงข้อเข่าและช่วยชะลอการเกิดโรคกระดูกพรุนได้ เช่นกัน เพราะมีสารเคอร์คูมินอยด์ในขมิ้นชัน ซึ่งช่วยกระตุ้นการสร้างเซลล์สร้างกระดูก (osteoblast) และลดการทำงานของเซลล์สลายกระดูก (osteoclast) ได้

หากสนใจอยากซื้อสินค้าก็สามารถกดเข้าไปสั่งกันได้ที่ช่องทางต่าง ๆ ดังนี้

  • หน้าเว็บไซต์ NaturalCode-Thailand.com 
  • สั่งซื้อผ่านทางอีเมล sales@naturalcode-thailand.com 
  • โทรสั่งซื้อสินค้าได้โดยตรงที่ Customer care เบอร์ 087-0891500 หรือ 02-7207920