รู้หรือไม่? “โรคกระดูกพรุน (Osteoporosis)“ เป็นภัยเงียบใกล้ตัวที่พบมากในประเทศไทย และมีแนวโน้มเพิ่มมากขึ้นทั่วโลก โดยองค์การอนามัยโลกรายงานว่าจากสถิติผู้ป่วยด้วยโรคนี้ เริ่มพบว่ามีอายุเฉลี่ยน้อยลงเรื่อย ๆ แสดงให้เห็นว่าโรคนี้ไม่เพียงแต่พบในผู้ที่มีอายุมากเท่านั้น แต่ผู้ที่มีอายุน้อยก็สามารถป่วยเป็นโรคกระดูกพรุนได้เช่นกัน
เพราะฉะนั้นการเสริมสร้างกระดูกด้วยวิธีต่าง ๆ จึงเป็นสิ่งที่สำคัญ แต่ที่น่าสงสัย คือ แล้วผู้ป่วยโรคกระดูกพรุนต้องกินอะไร? เพื่อเพิ่มมวลกระดูกให้แข็งแรง ในบทความนี้ NaturalCode จะพาทุกคนมาไขคำตอบไปพร้อมกัน
สาเหตุที่ทำให้มวลกระดูกลดลง
ก่อนจะทราบกันว่าโรคกระดูกพรุนต้องกินอะไรนั้น เรามารู้ถึงสาเหตุที่ทำให้มวลกระดูกลดลงกันก่อนดีกว่าว่ามีอะไรบ้าง ยกตัวอย่างดังต่อไปนี้
- เพศ : พบว่าผู้หญิงมีโอกาสเป็นโรคกระดูกพรุนมากกว่าผู้ชาย โดยเฉพาะผู้หญิงที่อยู่ในช่วงวัยหมดประจำเดือน หรือผ่าตัดรังไข่ออกทั้ง 2 ข้าง จะส่งผลทำให้มวลกระดูกค่อย ๆ ลดลงจากเดิมได้
- อายุ : มวลกระดูกจะลดลงเมื่ออายุมากขึ้น ตั้งแต่อายุ 30 ปีขึ้นไป โดยพบว่าผู้ที่มีอายุมากกว่า 70 ปี มีอัตราการเกิดโรคกระดูกพรุนประมาณ 20% และผู้ที่มีอายุมากกว่า 80 ปีขึ้นไป จะพบปัญหาโรคกระดูกพรุนได้มากถึง 30%
- การสูบบุหรี่ : พฤติกรรมการสูบบุหรี่เป็นอีกหนึ่งสาเหตุที่หลาย ๆ คนมองข้าม แต่รู้หรือไม่ว่า? สารนิโคตินในบุหรี่เป็นตัวการทำลายเซลล์สร้างมวลกระดูก จึงทำให้กระดูกบางลง นอกจากนี้การสูบบุหรี่มากกว่า 20 มวนต่อวัน จะยิ่งเพิ่มความเสี่ยงในการเกิดโรคกระดูกพรุนขึ้นได้
- เชื้อชาติ : จากผลการวิจัยพบว่าชาวผิวขาวและผิวเหลือง มีโอกาสเกิดโรคกระดูกพรุนมากกว่าชาวผิวสี ส่วนชาวเอเชียจัดเป็นเผ่ามองโกลอยด์ จะสามารถเก็บสะสมมวลกระดูกได้มากกว่าชาวผิวขาว แต่ก็น้อยกว่าชาวผิวสีนั่นเอง
- พันธุกรรม : ครอบครัวที่พ่อหรือแม่มีประวัติป่วยเป็นโรคกระดูกพรุน ก็มักจะส่งผลให้ลูกมีโอกาสเกิดโรคได้เช่นเดียวกัน
- ลักษณะการดำเนินชีวิต : พฤติกรรมการใช้ชีวิตทั้งในเรื่องการทำงาน และการออกกำลังกาย ล้วนส่งผลทำให้เกิดแรงกดทับที่กระดูกขึ้นได้
- พฤติกรรมการกิน-การดื่ม : เช่น การรับประทานโซเดียมหรือเกลือมากจนเกินไป รวมทั้งการดื่มแอลกอฮอล์และกาแฟ รวมถึงการทานยาบางชนิด โดยเฉพาะสเตียรอยด์ ก็ล้วนส่งผลให้มวลกระดูกลดลงได้
- ร่างกายขาดสารอาหาร : โดยเฉพาะผู้ที่ขาดแคลเซียม Vitamin D และโปรตีนที่จำเป็นต่อการสร้างมวลกระดูก จะส่งผลให้มีโอกาสเกิดโรคกระดูกพรุนมากยิ่งขึ้น
- ขาดการออกกำลังกาย : ผู้ที่ไม่ออกกำลังกายจะมีโอกาสเกิดโรคกระดูกพรุนมากกว่าผู้ที่ออกกำลังกายเป็นประจำ
สารอาหารที่จำเป็นต่อผู้ป่วยกระดูกพรุน
ความแข็งแรงของกระดูกเป็นสิ่งสำคัญสำหรับทุกคน เพื่อสุขภาพที่ดีในระยะยาว การทานอาหารเพิ่มมวลกระดูกนั้นเป็นสิ่งจำเป็นอย่างมาก โดยจะมีสารอาหารที่จำเป็นต่อผู้ป่วยกระดูกพรุน ดังนี้
- แคลเซียม : ตัวช่วยดี ๆ ในการเสริมสร้างกระดูกให้แข็งแรง หารับประทานง่าย เช่น ในนมถั่วเหลือง ผลิตภัณฑ์จากนม ปลาตัวเล็กที่กินได้ทั้งตัว อัลมอนด์ และเต้าหู้อ่อน เป็นต้น
- แมกนีเซียม : คู่หูแคลเซียมที่ขาดกันไม่ได้เลย ช่วยเสริมสร้างความแข็งแรงของกระดูก เช่น กล้วย ควินัว ผักโขม ถั่วเหลือง และข้าวกล้อง เป็นต้น
- วิตามินดี : ไอเทมเด็ดที่ช่วยในการดูดซึมแคลเซียมบริเวณลำไส้เล็ก ให้เข้าสู่ร่างกายได้อย่างมีประสิทธิภาพมากขึ้น มักพบในไข่แดง ปลาทู ตับ ปลาแซลมอน และปลาซาร์ดีน รวมถึงการที่ผิวหนังได้รับแสงแดดอ่อน ๆ ในตอนเช้า ก็จะช่วยให้ร่างกายได้รับวิตามินดีได้เช่นกัน
- กรดไขมันโอเมก้า-3 : กรดไขมันจำเป็นที่สำคัญกับกระดูก เนื่องจากโอเมก้า-3 เป็นแหล่งผลิตคอลลาเจน ช่วยลดการอักเสบ และช่วยเสริมสร้างข้อต่อต่าง ๆ ได้ เช่น อาหารจำพวกปลาทะเล หรือปลาน้ำจืด เป็นต้น
- วิตามินเค : ช่วยกระตุ้นการทำงานของโปรตีนที่ชื่อว่า ออสทีโอแคลซิน (Osteocalcin) ซึ่งทำหน้าที่จับกับแคลเซียมในกระดูก ช่วยให้ร่างกายดูดซึมแคลเซียมไปใช้ได้อย่างมีประสิทธิภาพ ส่งผลต่อความหนาแน่นและความแข็งแรงของกระดูก วิตามินเคจะพบมากในผักใบเขียว เช่น ผักโขม คะน้า ผักเคล ผักตระกูลกะหล่ำ และอื่น ๆ เช่น ตับวัว น้ำมันตับปลา และถั่วเหลือง เป็นต้น
- แมงกานีส ทองแดงและซิงค์ : ช่วยพัฒนาเสริมสร้างกระดูก ซ่อมแซมกระดูก และลดการสูญเสียแคลเซียม ซึ่งพบมากในถั่วและเมล็ดพืช รวมไปถึงสารอาหารต่าง ๆ เช่น หอยนางรม หอยแมลงภู่ มันหวาน ไข่ โกโก้ และฝรั่ง เป็นต้น
แนะนำอาหารเพิ่มมวลกระดูก ตัวช่วยกระดูกแข็งแรง
เมื่ออายุเพิ่มขึ้น ปัญหาที่ตามมาอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้เลยนั่นก็คือ กระดูกพรุน กระดูกบาง และเปราะ ล้วนแล้วเกิดจากปริมาณมวลกระดูกลดลง ส่งผลให้กระดูกสูญเสียความแข็งแรง จนเกิดการแตกหักได้ง่าย ดังนั้นการเลือกรับประทานอาหารเพิ่มมวลกระดูกเป็นประจำ จึงเป็นตัวช่วยสำคัญให้ทุกคนห่างไกลจากโรคนี้ ซึ่งในหัวข้อนี้ NaturalCode จะมาแนะนำอาหารเพิ่มมวลกระดูกให้แก่ทุกท่านกัน
ปลาตัวเล็ก
กลุ่มปลาตัวเล็กและปลาทะเล เป็นอาหารเพิ่มมวลกระดูก เนื่องจากอุดมไปด้วยแคลเซียม โดยเฉพาะปลาทู ปลาแซลมอน และปลาซาร์ดีน อีกทั้งยังมีโอเมก้า-3 สูง ที่เป็นกรดไขมันจำเป็นต่อร่างกาย มีส่วนช่วยในการเสริมสร้างกระดูกอ่อนและข้อต่อที่เสื่อมสภาพให้กลับมาแข็งแรงยิ่งขึ้น
ผลิตภัณฑ์จากนม
ผลิตภัณฑ์จากนม นับว่าเป็นอาหารที่อุดมไปด้วยโปรตีน แคลเซียม แมกซีเซียม ฟอสฟอรัส และวิตามินดีสูง ซึ่งร่างกายสามารถดูดซึมและนำไปใช้ได้อย่างรวดเร็ว รวมถึงโยเกิร์ตที่เป็นผลผลิตจากนมด้วยเช่นกัน
พืชตระกูลถั่ว และธัญพืช
พืชตระกูลถั่วและธัญพืช เป็นที่รู้กันดีอยู่แล้วว่า คือ แหล่งรวมของแมงกานีส ไบโอติน ไบโอฟลาวิน วิตามินอี และสังกะสี ที่มีส่วนช่วยเสริมสร้างร่างกาย และเป็นอาหารเพิ่มมวลกระดูกที่ดีเลยทีเดียว
ผักและผลไม้ที่ให้วิตามินซีสูง
ผักและผลไม้ที่มีวิตามินซีสูง เช่น กีวี มะละกอ และกล้วย เป็นต้น ซึ่งมีบทบาทสำคัญในการเสริมสร้างกระดูกให้แข็งแรง เพราะช่วยส่งเสริมการสังเคราะห์คอลลาเจน ซึ่งคอลลาเจนเป็นโปรตีนสำคัญที่ช่วยสร้างเนื้อเยื่อเกี่ยวพันในกระดูก อีกทั้งวิตามินซียังช่วยกระตุ้นการสังเคราะห์คอลลาเจน ทำให้กระดูกมีความยืดหยุ่น แข็งแรง แถมยังเพิ่มการดูดซึมแคลเซียมจากอาหารได้อีกด้วย
พืชตระกูลกะหล่ำ
พืชตระกูลกะหล่ำ เช่น กะหล่ำปลี ผักกาด บรอกโคลี ผักคะน้า และผักเคล เหล่านี้เป็นอาหารเพิ่มมวลกระดูกที่อุดมไปด้วยประโยชน์มากมาย เช่น วิตามินบี B6 ไฟเบอร์ ธาตุเหล็ก แมงกานีส แมกนีเซียม แคลเซียม และฟอสฟอรัสสูง ล้วนแล้วช่วยเสริมสร้างกระดูกให้มีความแข็งแรง
เป็นอย่างไรกันบ้าง? กับเคล็ดลับที่บทความนี้ได้มาแชร์ให้ทุกท่านทราบกันว่าโรคกระดูกพรุนต้องกินอะไร? เพื่อเพิ่มมวลกระดูกให้แข็งแรง จะเห็นได้ว่าโรคกระดูกพรุนมีสาเหตุจากหลายปัจจัย จึงควรพยายามหลีกเลี่ยงปัจจัยภายนอกที่ไม่เหมาะสม เพื่อสุขภาพกระดูกที่แข็งแรง รวมถึงควรให้ความสำคัญกับการเลือกทานอาหารเสริมมวลกระดูก เพื่อเป็นตัวช่วยในการดูแลสุขภาพ
ซึ่งผลิตภัณฑ์ที่ขอแนะนำเลยนั่นก็คือ กาแฟขมิ้น Monday Coffee และขมิ้นฟู่จากแบรนด์ NuturalCode ที่สรรพคุณมากไปด้วยประโยชน์ต่อสุขภาพ เน้นช่วยบำรุงข้อเข่าให้แข็งแรงและยังมี Antioxidant สูง รวมถึงมีส่วนผสมจากพืชสมุนไพรหลายชนิด ที่มีสรรพคุณช่วยบำรุงกระดูก ไม่ว่าจะเป็น สารสกัดขมิ้นชันและพริกไทยดำ ที่สำคัญรสชาติอร่อย ทานง่าย และได้ประโยชน์แบบเต็ม ๆ
หากสนใจอยากซื้อสินค้าก็สามารถกดเข้าไปสั่งกันได้ที่ช่องทางต่าง ๆ ดังนี้
- หน้าเว็บไซต์ NaturalCode-Thailand.com
- สั่งซื้อผ่านทางอีเมล sales@naturalcode-thailand.com
- โทรสั่งซื้อสินค้าได้โดยตรงที่ Customer care เบอร์ 087-0891500 หรือ 02-7207920